• หน้าแรก
  • ค้นหาร้านค้า

ข่าวสาร

ขั้นตอนการตอกเสาเข็ม จุดเริ่มต้นของบ้านที่มั่นคง

      ก่อนเริ่มต้นสร้างบ้าน สิ่งสำคัญที่สุดที่หลายคนมักมองข้ามคือ “ฐานราก” เพราะหากรากฐานไม่มั่นคง ไม่ว่าจะใช้วัสดุก่อสร้างดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้บ้านแข็งแรงได้จริง เพราะเสาเข็มทำหน้าที่รองรับน้ำหนักบ้านและถ่ายเทแรงลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรง หากทำไม่ถูกต้องอาจเกิดปัญหาทรุดตัวหรือแตกร้าวในอนาคตได้ ดังนั้น “การตอกเสาเข็มให้ได้มาตรฐาน” คือสิ่งที่เจ้าของบ้านและช่างทุกคนควรใส่ใจ

🔹 ขั้นตอนการตอกเสาเข็มอย่างถูกวิธี

ตรวจสอบหมุดตอกเสาเข็ม
ก่อนเริ่มงานต้องเช็กตำแหน่งหมุดให้ตรงตามแบบก่อสร้าง เพื่อให้จุดตอกเสาเข็มแต่ละต้นอยู่ในแนวเดียวกัน

ขีดระยะที่หัวเสาเข็ม ระยะ 1 ฟุต หรือ 30 ซม. จํานวน 10 ช่อง
เพื่อใช้วัดระยะความลึกระหว่างการตอก โดยแต่ละช่องห่างกันประมาณ 30 ซม.

ตรวจสอบพิกัด แนววางของเสาเข็ม(Offset แนว X, Y)
การตรวจว่าเสาเข็มแต่ละต้นอยู่ใน “จุดที่ถูกต้อง” และ “เรียงตรงแนวเดียวกัน”ไม่เบี้ยว ไม่เหลื่อมออกจากแนวอาคาร เพื่อให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้สมดุลทั้งหลัง

ตรวจสอบความตรงของเสาเข็มระหว่างการตอก
การตรวจให้แน่ใจว่า “เสาเข็มตั้งตรง” ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง โดยใช้ลูกดิ่งหรือกล้องวัดแนวดิ่ง มาช่วยเช็กระหว่างตอกเสาเข็ม

เชื่อมต่อเสาเข็ม (ถ้ามีหลายท่อน)
ต้องเชื่อมแน่นหนาทั้งหัวและท้าย เพื่อให้เสาเข็มรับแรงได้เต็มประสิทธิภาพ

นับจำนวนครั้งที่ตอกเสาเข็ม
เป็นการนับจำนวนครั้งที่ตอกเสาเข็ม เพื่อดูว่าเสาเข็มถึงชั้นดินแข็งแล้วหรือยัง ถ้าตอกหลายครั้งแล้วเสาเข็ม “ไม่จมลงไปมาก” แสดงว่าถึงดินแข็งพอดี แต่ถ้า “ยังจมได้ง่าย” แปลว่ายังไม่ถึงชั้นดินแข็ง ต้องตอกต่อไป

💡 เกร็ดความรู้สำหรับเจ้าของบ้าน
ก่อนเริ่มงาน ควรให้วิศวกรตรวจสอบชนิดของดินและออกแบบความยาวของเสาเข็มให้เหมาะสม

หลังตอกเสาเข็ม ควรปล่อยให้ฐานรากเซตตัวอย่างน้อย 7–14 วัน ก่อนเริ่มงานก่อผนัง

หากพื้นที่ก่อสร้างเป็นดินอ่อนหรือดินนิ่ม ใกล้พื้นที่ชุ่มน้ำ ควรใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงเพื่อความมั่นคงสูงสุด

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง